สถานที่ท่องเที่ยว
1. มอหินขาว ชัยภูมิ
ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติภูแลนคา เป็นกลุ่มหินขนาดใหญ่จำนวน 3 กลุ่ม โดยจะมีหินทรายก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งเป็นสีขาวและโดดเด่นในพื้นที่ และเป็นที่มาของคำว่า มอหินขาว และในบริเวณยังมีเสาหินขนาดใหญ่จำนวน 5 เสา ตั้งเรียงรายกันเป็นแถว มีความสูงประมาณ 12 เมตร นอกจากนั้นยังมีแท่นหินที่มีรูปร่างคล้ายเรือ เจดีย์ หอเอียงเมืองปิซ่า และคล้ายกระดองเต่า ซึ่งจัดเป็นกลุ่มหินที่ 1 กลุ่มหินที่ 2 อยู่ห่างออกไป แท่นหินจะมีรูปร่างแปลกแตกต่างกันออกไป และเมื่อห่างออกไปอีกประมาณ 1,500 เมตร จะเป็นกลุ่มหินที่ 3 ที่เป็นแท่นหินและเสาหินขนาดเล็ก โดยลาดเอียงขึ้นไปจดหน้าผาที่มีชื่อว่า ผาหัวนาก และบริเวณมอหินขาวยังเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดชัยภูมิ
ที่มาของชื่อ มอหินขาว: เดิมพื้นที่แถวนี้เป็นป่า ต่อมาได้มีคนมาบุกเบิกทำไร่ และก็เห็นมีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ทั่วไปแต่ ก็ไม่ได้สนใจอะไร ที่ไร่มันสำปะหลัง (ในสมัยนั้น) ของลุงก็มีก้อนหินใหญ่ขึ้นทั่วไป แต่ที่ลุงเห็นว่าแปลกประหลาดมาก ก็คือก้อนหินใหญ่ 5 ก้อน ที่ในทุกคืนวันพระ (15 ค่ำ, 8 ค่ำ) จะมีแสงสีขาวส่องขึ้นมา คนเฒ่าคนแก่สมัยนั้น เลยเรียกที่นี่ว่ามอหินขาวสโตนเฮนจ์ เมืองไทย“เสาหินและแท่งหิน ที่มอหินขาวส่วนใหญ่เป็นหินทรายสีขาว นอกจากนี้ก็ยังมี หินทรายแป้ง หินโคลน หินทรายสีม่วง ซึ่งสันนิษฐานว่าก้อนหินขนาดยักษ์เหล่านี้มีอายุประมาณ 175-195 ล้านปี และเกิดจากการสะสมตัวของตะกอนทรายแป้งและดินเหนียว
กลุ่มหินของมอหินขาวกลุ่มที่โดดเด่นที่สุด คือ กลุ่มหินแรกที่มีเสาหินขนาดใหญ่ 5 ต้นเรียงรายกันอยู่ เสาหินเหล่านี้มีความสูงราว 12 เมตร ต้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดต้องใช้คนโอบไม่น้อยกว่า 20 คน เชื่อว่าที่นี่จะได้รับความนิยมในบ้านเราในเวลาไม่นานนัก
สอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูแลนคา โทร. 044810902-3 หรือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร.025620760
2. น้ำตกตาดโตน
อุทยานแห่งชาติตาดโตน
อยู่ในท้องที่อำเภอเมืองชัยภูมิ ทางทิศเหนือของจังหวัดชัยภูมิ
ลักษณะทางธรณีวิทยาประกอบด้วย หินปูนและหินดินดาน
โดยเฉพาะบริเวณน้ำตกตาดโตนประกอบด้วยลานหินที่กว้างใหญ่และสวยงาม
พื้นที่ทั่วไปปกคลุมด้วยป่าดิบแล้งและป่าเต็งรังเป็นส่วนใหญ่
มีเนื้อที่ประมาณ 135,737.50 ไร่ หรือ 217.18 ตารางกิโลเมตร
ในปี พ.ศ. 2513 ป่าไม้จังหวัดชัยภูมิ ได้พิจารณาเห็นว่าน้ำตกตาดโตน ซึ่งอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติภูแลนคา ท้องที่ตำบลนาฝาย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ เป็นน้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วยลานหินกว้างและมีน้ำไหลตลอดปี เหมาะสมที่จะจัดเป็นวนอุทยานขึ้น จึงได้เสนอให้กรมป่าไม้พิจารณาดำเนินการ ซึ่งกรมป่าไม้มีมติเห็นชอบตามที่จังหวัดเสนอให้จัดตั้ง “วนอุทยานน้ำตกตาดโตน” ขึ้น เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2518 โดยอยู่ในความควบคุมดูแลของสำนักงานป่าไม้จังหวัดชัยภูมิ
ต่อมา กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้พิจารณาเห็นว่า เพื่อให้การจัดวนอุทยานแห่งนี้ เป็นไปตามหลักวิชาการ และเพื่อรักษาสภาพธรรมชาติอันสวยงามแห่งนี้ไว้ ควรสำรวจและปรับปรุงยกฐานะวนอุทยานน้ำตกตาดโตน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ จึงมีคำสั่งกรมป่าไม้ที่ 655/2518 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2518 ให้นายไกรลาศ เทพสัมฤทธิ์พร นักวิชาการป่าไม้ 4 หัวหน้าวนอุทยานน้ำตกตาดโตน ดำเนินการสำรวจหาข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า วนอุทยานน้ำตกตาดโตนมีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ มีน้ำตกที่สวยงามหลายแห่ง เหมาะสมจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ตามหนังสือวนอุทยานน้ำตกตาดโตน ที่ กษ 0808(ตน)/28 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2519
กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีมติในคราวการประชุมครั้งที่ 2/2519 เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2519 เห็นชอบให้ยกฐานะวนอุทยานน้ำตกตาดโตนเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าภูแลนคา ในท้องที่ตำบลท่าหินโงม ตำบลห้วยต้อน ตำบลนาฝาย และตำบลนาเสียว อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 97 ตอนที่ 208 ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2523 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 23 ของประเทศ
ในปี พ.ศ. 2513 ป่าไม้จังหวัดชัยภูมิ ได้พิจารณาเห็นว่าน้ำตกตาดโตน ซึ่งอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติภูแลนคา ท้องที่ตำบลนาฝาย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ เป็นน้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วยลานหินกว้างและมีน้ำไหลตลอดปี เหมาะสมที่จะจัดเป็นวนอุทยานขึ้น จึงได้เสนอให้กรมป่าไม้พิจารณาดำเนินการ ซึ่งกรมป่าไม้มีมติเห็นชอบตามที่จังหวัดเสนอให้จัดตั้ง “วนอุทยานน้ำตกตาดโตน” ขึ้น เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2518 โดยอยู่ในความควบคุมดูแลของสำนักงานป่าไม้จังหวัดชัยภูมิ
ต่อมา กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้พิจารณาเห็นว่า เพื่อให้การจัดวนอุทยานแห่งนี้ เป็นไปตามหลักวิชาการ และเพื่อรักษาสภาพธรรมชาติอันสวยงามแห่งนี้ไว้ ควรสำรวจและปรับปรุงยกฐานะวนอุทยานน้ำตกตาดโตน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ จึงมีคำสั่งกรมป่าไม้ที่ 655/2518 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2518 ให้นายไกรลาศ เทพสัมฤทธิ์พร นักวิชาการป่าไม้ 4 หัวหน้าวนอุทยานน้ำตกตาดโตน ดำเนินการสำรวจหาข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า วนอุทยานน้ำตกตาดโตนมีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ มีน้ำตกที่สวยงามหลายแห่ง เหมาะสมจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ตามหนังสือวนอุทยานน้ำตกตาดโตน ที่ กษ 0808(ตน)/28 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2519
กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีมติในคราวการประชุมครั้งที่ 2/2519 เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2519 เห็นชอบให้ยกฐานะวนอุทยานน้ำตกตาดโตนเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าภูแลนคา ในท้องที่ตำบลท่าหินโงม ตำบลห้วยต้อน ตำบลนาฝาย และตำบลนาเสียว อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 97 ตอนที่ 208 ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2523 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 23 ของประเทศ
3. ทุ่งดอกกระเจียว
ทุ่งดอกกระเจียว ถือเป็นไฮไลต์ท่องเที่ยวช่วงฤดูฝนแห้งแล้งจะกลับคืนสู่ความเขียวขจีและแต่ง แต้มด้วยความ สดใส ของกระเจียวที่ผิดอกสีชมพูเต็มทุ่งหญ้ากว้าง ด้วยความงดงามตระการตาของดอกสีชมพูอมม่วงขึ้นเต็มไป ทั่วผืนป่า ตัดกับพื้นสีเขียวขจีของหญ้าเพ็ก และโขดหินธรรมชาติ อีกทั้งรูปลักษณ์สวยงาม วิจิตรพิสดารทำให้เป็น ทุ่งดอกกระเจียวในอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม เป็นทุ่งดอกกระเจียวที่ใหญ่ที่สุด และงดงามที่สุดในประเทศไทย
ดอกกระเจียวจะพากันบานอยู่
การเดินทางมาชมทุ่งดอกกระเจียวที่สวย งามที่สุด คือ ในช่วงเช้าที่มีสายหมอกบางๆ ปกคลุม แต่ถ้าหากมาในช่วง บ่ายที่ฝนเพิ่งตกใหม่ๆ ก็จะเจอบรรยากาศแบบนี้ได้เช่นกัน นอกจากนี้การเที่ยวชมเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ทุ่งดอกกระเจียว แล้ว ยังสามารถชมแหล่งท่องเที่ยวบริเวณข้างเคียงได้อีกด้วย เช่น ป่าหินงาม ซึ่งจะมีก้อนหินรูป ลักษณ์แปลกตา นรูปถ้วยรางวัลฟุตบอลฟีฟ่า รูปดอกเห็ดเขาประตูชุมพล น้ำตกเทพประทาน
สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
1.ลานหินงาม
เป็น ที่มาของชื่อ ป่าหินงามมีสภาพเป็นลานหินกว้างครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ล้อมรอบด้วยแนวป่าเต็งรัง บริเวณ ลานหินเต็มไปด้วยก้อนหินขนาดใหญ่รูปทรงแปลกตา เช่น รูปสัตว์ ปราสาทโบราณ หินรูปถ้วย รางวัล ฟุตบอลฟีฟ่า รูปดอกเห็ด;ฯลฯ ซึ่งกิดจากการกัดเซาะของลมและน้ำมานานนับล้านปี
2.สุดแผ่นดิน
อยู่ ห่างจากทุ่งดอกกระเจียวประมาณ 300 เมตร เป็นจุดสูงสุดของ อช. ป่าหินงาม และเป็นหน้าผาสูงสุดชายขอบ ด้านตะวันตกของที่ราบสูงโคราช มีความสูง 846 ม.ทางซ้ายมือเป็นที่ราบในเขต จ.พบุรี เบื้องหน้าเป็นทิวเขาและ ผืนป่า ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกาและทางขวามือเป็นพื้นที่ของ จ. เพชรบูรณ์ สิ่งที่ดูพิเศษสุดของจุดชมวิว แห่งนี้ี้คือ ลักษณะของผาหินที่ยื่นออกไปในอากาศคล้ายกับจุดชมวิวผาหำหด แต่มีขนาดใหญ่กว่าเมื่อขึ้น ไปยืน บนหน้าผาจะมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างได้กว้างไกล
3.ชมทะเลหมอกสุดแผ่นดิน(ช่วงปลายฝนต้นหนาว)
จุด ชมทิวทัศน์สุดแผ่นดินงดงามที่สุดในช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะมีสายหมอกปกคลุมผืนป่าเบื้องล่างเป็นบริเวณ กว้าง ทำให้ที่นี่เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามและอยู่ใกล้กรุงเทพฯ อีกแห่งหนึ่ง
4. ปรางค์กู่
จังหวัดชัยภูมิ เป็น หนึ่งในจังหวัดของภาคอีสานที่มีประวัติความเป็นมาที่เก่าแก่ยาวนาน มีอารยธรรมหลากหลายสมัย ซึ่งสามารถย้อนไปจนถึงสมัยทวารวดีในช่วงที่ขอมยังเรืองอำนาจ ตามหลักฐานได้มีการสันนิษฐานว่าเมืองชัยภูมิแห่งนี้เคยเป็นทางผ่านของขอมมา ก่อน และปัจจุบันยังคงปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์เป็นปรางค์ศิลาหลายแห่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “ปรางค์กู่”โบราณสถานที่นับว่ามีความสมบูรณ์ที่สุดของจังหวัดชัยภูมินั่นเอง
มา
ถึงในตัวเมืองของจังหวัดชัยภูมิทั้งที
เราก็หาโอกาสเดินทางไปชมความสวยงามของปรางค์กู่โบราณสถานที่ตั้งอยู่ท่าม
กลางชุมชนด้วยความสนใจ
และจากที่ตาเห็นปรางค์กู่ของเมืองชัยภูมิไม่ได้มีขนาดใหญ่โตมากนัก
แต่ก็มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว อย่ามัวแต่รอช้า
เรามาเริ่มทำความรู้จักกับโบราณสถานที่สำคัญแห่งนี้กันก่อนดีกว่า
“ปรางค์กู่” เป็นคำที่ใช้เรียกกลุ่มอาคารที่มีแผนผังและลักษณะเช่นเดียวกันกับปราสาท ตามหลักฐานเชื่อกันว่าปรางค์กู่แห่งนี้เป็น “อโรคยาศาล” หรือ
สถานพยาบาลที่สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ช่วงระหว่าง พ.ศ.
1724-1763 มีปรางค์ประธานอยู่ตรงกลาง 1 องค์ มีวิหารหรือบรรณาลัยด้านหน้า 1
หลัง ทั้งหมดถูกล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลงซึ่งมีโคปุระ
หรือซุ้มประตูอยู่ที่ด้านหน้า ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นด้วยศิลาแลง
เว้นก็แต่กรอบประตู หน้าต่าง ทับหลัง และเสาประดับที่เป็นหินทราย
ภายในปรางค์ประธานทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาปางสมาธิ
ศิลปะแบบทวาราวดีซึ่งเป็นของที่เคลื่อนย้ายมาจากที่อื่น
ชาวชัยภูมิให้ความเคารพศรัทธามาก หลังจากที่เราได้สักการะขอพรเรียบร้อยแล้ว
เราก็ค่อยเดินชมไปรอบๆ
5. จุดชมวิวเทือกเขาพังเหย
เขาพังเหย
Phang Hey mountain
เขาพังเหย ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติไทรทอง อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ อยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๒๕ (ชัยภูมิ-นครสวรรค์)
ประมาณกิโลเมตรที่ ๗๐
เป็นจุดพักรถยนต์และชมทิวทัศน์ของผืนป่าและแนวสันเขาสลับซับซ้อนของเขาพัง
เหย เมื่อมองลงไปเบื้องล่างจะเห็นที่ราบ อำเภอภักดีชุมพล จังหวัดชัยภูมิ
เป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะในช่วง ยามเย็นที่อาทิตย์จะอัสดง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น